KDP 2025
พวกเราเริ่มต้นกับ KDP เมื่อ 14 ปีที่แล้ว
ตั้งแต่สมัย Public Domain และ Gutenberg
สมัยนั้นเงินทองมากันอย่างง่ายดาย
วันนั้นการทำเงิน $1000 เป็นเรื่องธรรมดามาก คนทำได้ $5000 ต่อเดือนก็มีไม่น้อย
น่าเสียดายที่มันอยู่ไม่นาน แค่ปีเดียวแนวทางนี้ก็ถูกสกัดจาก amazon
เนื่องจากคนที่มาใหม่ใช้วิธี spam กันอย่างไม่ยั้งมือ โดยไม่ต้องคำนึงถึงคุณภาพ
นัก spam ไม่ได้มาจากกลุ่มของเรา
แต่มาจากกลุ่มอื่นที่คัดลอกข้อมูลของเราไปเผยแพร่และนำไปใช้อย่างผิดวิธี
เหมือนน้ำเสียส่วนหนึ่งที่ถุกสาดเข้ามา ทำให้น้ำดีที่มีอยู่พลอยกลายเป็นน้ำเสียไปด้วย
ทำให้พวกเราเสียหายโดนปิดแอคเคาท์ไปด้วย
สิบปีผ่านไป เจ้าของแอคเคาท์ที่เคยโดนปิด เขาให้โอกาสกลับมาเปิดใหม่ได้อีก
คราวนี้การทำมาหากินกับ KDP ไม่ใช่แนวทาง Public Domain ที่เคยทำมา
แต่เป็นหนังสือทำง่าย เช่น Low Content Books ที่มีแต่ปกสวยๆกับเส้น
และ Medium Content Books ที่มีภาพประกอบเยอะแต่ตัวหนังสือน้อยๆ เช่น
Coloring Books, Activity Books, Puzzle Books
เรื่องความขยัน คนไทยเราไม่เป็นรองใคร
คนไทยหลายคนขยันส่ง Low Content Books และ Medium Content Books
จนทำรายได้หลายร้อยเหรียญต่อเดือน ผมเห็นบางคนโพสท์ใน FB ว่ามีรายได้จาก
หนังสือง่ายๆพวกนี้เดือนละ 600-700 ดอลลาร์ต่อเดือน ถือว่าเป็นรายได้เสริมที่ไม่เลวเลย
สำหรับคนไทย บางคนเป็นนักเรียนนักศึกษาอยู่ รายได้ระดับนี้ช่วยเหลือได้มาก
ยุคของ Low Content-Medium Content อาศัยลูกอึด ความขยัน
คัดสรรภาพสวยๆ และเลือกเฟ้น keywords ที่การแข่งขันไม่สูงมาก ก็ยังพอเอาตัวรอดได้
แต่เมื่อสองปีที่แล้ว เกิด Disruption ในวงการ Low Content/Medium Content
นั่นคือการมาของ AI ที่ทำให้ต้นทุนการผลิตหนังสือแนวนี้ถูกลง และเร็วขึ้น หลายสิบเท่า
coloring book ที่เคยใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าจะเสร็จสักเล่ม ทำได้ในสองชั่วโมง
ด้วยความมหัศจรรย์ของ AI generator เช่น MidJourney, Leonardo และตัวอื่นๆ
ช่วงสามสี่เดือนแรกที่ AI ปรากฎขึ้น ยังมีคนใช้งาน AI น้อย
คนที่ส่งงานซึ่งผลิตด้วย AI ทำเงินกันเป็นว่าเล่น
ภาพที่สวยสดงดงาม การผลิตที่รวดเร็ว ทำให้ใครที่มาก่อนก็รวยก่อน
แต่ปรากฎการณ์เช่นนั้นอยู่ได้ไม่นาน เพราะคนอื่นก็เรียนรู้เรื่องการใช้ AI ได้เช่นกัน
เมื่อผลงานที่ผลิตโดย AI ทะลักเข้าสู่แพลทฟอร์ม KDP วันละเป็นหมื่นเล่ม จน robot ตรวจไม่ทัน
สิ่งที่ตามมา คือ
Low Content โดนปฎิเสธทันที ตั้งแต่วินาทีแรกที่กด SUBMIT
Medium Content ยังไม่โดนปฎิเสธแบบอัตโนมัติ
แต่การตรวจสอบจะช้าเหมือนเต่าคลานกว่าจะผ่านได้
และจำนวนที่ผ่านได้ไม่ใช่ 100% แต่เหลือแค่ 30%
เขาเลือกผลงานที่แตกต่างและมีคุณภาพดีจริงๆ
ส่วนที่ทำมาแบบโหลๆ เลียนแบบคนอื่น เหมือนคนอื่น โดนปฎิเสธหมด
เพราะผลงานจาก AI มันไหลบ่าเข้ามาท่วมจน KDP รับไม่ไหวแล้ว
ถ้าถามว่าปี 2025 ยังทำ KDP ต่อไปได้หรือไม่?
คำตอบคือได้ แต่มีข้อแม้บางประการ
Low Content ควรจะหยุดทำ หนังสือที่มีแต่ปกสวยกับเส้นมันทำง่ายเกินไป ยิ่งมี AI ช่วยมันยิ่งง่ายสุดๆ
เมื่อมันง่ายเกินไป ใครๆก็ทำ ใครๆก็ขาย ปัญหาคือมีคนขายมากกว่าคนซื้อ
เราจะดันทุรังต่อไปกับการทำ Low Content ในปีนี้ รอดยากมาก
Medium Content ยังทำได้ แม้การสอบผ่านจะยากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าเราศึกษาวิธีทำให้หนังสือของเรามีความแตกต่าง และเลือกแนวทางที่คู่แข่งยังมีน้อย เช่น แทนที่จะมุ่งเน้นไปแต่ Coloring Books ซึ่งมี
คนส่งเข้ามามากมายในแต่ละวัน ลองไปทาง Word Search หรือแนวอื่นซึ่งทำยากกว่า แต่มีคู่แข่งน้อยกว่า เราน่าจะมีโอกาสขายสูงขึ้น
และถ้ายังรักจะทำ Coloring Books ต่อไปจริงๆ ควรศึกษาหาวิธีสร้างจุดเด่น สร้างความแตกต่างให้หนังสือเรา อย่าให้มันดูโหลเกินไป โอกาสยังพอมีอยู่
High Content Books อันนี้แหละคือตัวเงินตัวทองตัวจริงใน KDP หนังสือที่มีตัวหนังสือเยอะๆ ภาพน้อยๆ จะตั้งราคาได้สูงที่สุด คู่แข่งน้อยกว่าสองแนวแรก และคนที่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำจาก KDP จะเน้นแต่หนังสือแบบนี้ หาใช่สองแบบแรกไม่
คนไทยเราเคยเสียเปรียบฝรั่งมากมายตรงเขียนหนังสือภาษาอังกฤษไม่เป็น แต่วันนี้เมื่อ AI มันช่วยให้เราสู้ฝรั่งได้ทุกรูปแบบ เราจะไปกลัวการเขียนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษทำไม ก็ใช้ AI ให้มันเขียนแทนซิ
แม้จะใช้ AI เขียนแทน คนไทยส่วนมากก็ยังรู้สึกกล้าๆกลัวๆอยู่ดี
วันนี้เราจงขจัดความกลัวทิ้งไป มาลองใช้ AI แต่งหนังสือแทนเรา แล้วจะรู้ว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิด มีคนต่างชาติหลายประเทศที่ทำอยู่ เช่น คนเวียดนาม ซึ่งภาษาประกิตไม่ได้ดีกว่าเราเลย แต่คนเวียดนามบางคนทำเงินเป็นหลักแสนกันแล้ว เพราะใช้ AI อย่างถูกวิธี
สำหรับพวกเราที่เคยผ่านด่าน Public Domain จนร่ำรวยกันมาแล้วเมื่อสิบปีก่อน การใช้ AI เขียนแทนมันก็ไม่ได้ต่างกับการใช้ Public Domain เท่าใดนัก เราขายหนังสือภาษาอังกฤษที่เราไม่ได้แต่งเองเช่นกัน วิธีโน้นเจ้าของลิขสิทธิ์เขาตายไปแล้วเป็นร้อยปี แต่วิธีนี้เราใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วย มันออกมาเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เราเอาไปขายต่อได้ และมันทำให้คนหลายคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤารวยมาแล้ว เราจะรวยอย่างเขาบ้างไม่ได้เชียวหรือ
ข้อดีของ High Content อีกอย่างหนึ่ง คือเราสามารถแปลง Text เป็นเสียง แล้วนำไปเสนอขายเป็น audio books บนแพลทฟอร์มอื่นได้อีก เรียกว่ากระสุนนัดเดียวได้นกหลายตัว เพิ่มโอกาสในการทำเงินให้เราอีกมากมาย
ข้อสรุปต่อคำถามที่ว่า "KDP ในปี 2025 ยังน่าทำหรือไม่"
คำตอบคือ ยังน่าทำ ถ้าเรารู้จักปรับตัว แสวงหาโอกาสใหม่ๆ ลองทำอะไรที่ยากกว่าเดิม
แต่จะไม่น่าทำ ถ้ายังจมปลักอยู่กับของง่ายๆเช่น Low Content
เรื่องนี้ไม่อยู่ในห้องลับหรือครับ
Quote from: Doody on Jan 25, 2025, 12:48 PMเรื่องนี้ไม่อยู่ในห้องลับหรือครับ
KDP มันเป็นเรื่องเก่า ประเด็นเก่า
บางอย่างก็อยู่ในหลักสูตรอื่นที่เคยสอนไปแล้ว จะเอามาทบทวนใหม่ อัพเดทใหม่
วิธีใช้ AI เขียนหนังสือ ก็เคยแสดงขั้นตอนไปแล้วเมื่อสองปีก่อน แต่บางคนลืมไปแล้ว
ในกระทู้นี้ แทนที่จะเขียนแค่บทความ เราก็จะให้มันเขียนหนังสือเป็นเล่ม แค่นั้นเอง
ส่วนห้องลับ จะเป็นประเด็นใหม่ๆที่ไม่เคยอธิบายมาก่อน
อ๋อ ครับ
ย้อนยุคไปหา kdp กันอีกครั้ง จะย้อนกลับไปหา clickbank ด้วยหรือเปล่าครับ
Quote from: Doody on Jan 25, 2025, 01:57 PMย้อนยุคไปหา kdp กันอีกครั้ง จะย้อนกลับไปหา clickbank ด้วยหรือเปล่าครับ
clickbank ในยุคที่ผมเคยทำสำเร็จนั้น ถือว่าจับเสือมือเปล่าครับ ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย
ยุคปัจจุบันนี้ คนไทยที่ทำ clickbank จนได้เดือนละหลายแสนยังมีอยู่ แต่ต้องใช้เงินมาสู้กัน
จะมามือเปล่าแบบยุคโน้นไม่น่าจะมีแล้ว ผมเห็นคนไทยที่ซื้อ ads เก่งๆยังโพสท์ยอดขาย clickbank กันอยู่
เห็นเปิดคอร์สสอนด้วย ผมเชื่อว่าเขาทำได้จริง แต่ผมไม่ถนัดทางการซื้อโฆษณา
เคยรุ่งสมัยค่าคลิกถูกๆ หลังจากคลิกแพงแล้วก็ไม่ค่อยได้ทำ ทำแล้วก็ไม่ค่อยรุ่ง
ถ้าจะย้อนกลับไป clickbank ก้ต้องด้วยวิธีที่ไม่ต้องใช้เงิน
ส่วน kdp ยังพอไปได้โดยไม่ต้องใช้ทุน เลยจะว่ากันเรื่องนี้ก่อน
หากเจอวิธีทำ clickbank แบบออกแรง แต่ไม่ต้องออกเงิน ค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้เอาเรื่องนี้ก่อน
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับวิธีซื้อโฆษณา
ผมก็เคยผ่านสังเวียนการซื้อโฆษณามาบ้าง มันมีโอกาสทั้งกำไรและขาดทุน
คนที่ทำกำไรในวันนี้ บางทีเขาก็ขาดทุนหลายแสนกว่าจะเจอสินค้าและ keywords ที่ทำเงินให้เขาได้
แต่เขามีสายป่านยาวพอที่จะทดสอบไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอขุมทอง
คนสายป่านสั้น หมดไปสี่ห้าหมื่นก็ถอดใจไม่สู้แล้ว
วิธีซื้อโฆษณาเหมาะกับคนบางคน แต่ไม่ใช่ทุกคน ถ้าไม่พร้อมจะเสียเงินสักห้าหกหมื่น อย่าลองดีกว่า
บางทีเสียห้าหมื่นแล้วก็ยังไม่ได้อะไร แต่บางคนเขาถนัดแบบนี้จริงๆครับ ทางใครทางมัน
ผมก็เข้าไปคลุกกับการซื้อโฆษณามาแล้ว ตอนนี้รามือออกมา ปล่อยคนที่เขาถนัดดีกว่า
Quote from: supersonics on Jan 25, 2025, 02:10 PMยุคปัจจุบันนี้ คนไทยที่ทำ clickbank จนได้เดือนละหลายแสนยังมีอยู่ แต่ต้องใช้เงินมาสู้กัน
จะมามือเปล่าแบบยุคโน้นไม่น่าจะมีแล้ว ผมเห็นคนไทยที่ซื้อ ads เก่งๆยังโพสท์ยอดขาย clickbank กันอยู่
ยอดขายสูงๆนั้น เป็นยอดที่ยังไม่ได้หักค่าโฆษณาครับ
เมื่อหักค่าโฆษณาแล้ว กำไรจริงๆอาจจะแค่ 10-20%
ผมเคยขาย shopify ผ่าน facebook บางวันยอดขายเป็น $100 หักโฆษณาแล้วติดลบ
ยอดขาย clickbank เป็นหมื่นเหรียญที่เอามาอวดกัน เรายังไม่รู้ครับว่าเขาซื้อโฆษณาไปเท่าไหร่
Quote from: supersonics on Jan 25, 2025, 02:10 PMถ้าจะย้อนกลับไป clickbank ก้ต้องด้วยวิธีที่ไม่ต้องใช้เงิน
ส่วน kdp ยังพอไปได้โดยไม่ต้องใช้ทุน เลยจะว่ากันเรื่องนี้ก่อน
หากเจอวิธีทำ clickbank แบบออกแรง แต่ไม่ต้องออกเงิน ค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้เอาเรื่องนี้ก่อน
ส่วนตัวผมชอบ CB มาก จ่ายแต่ละครั้งสะใจดี สมัยทำ article marketing นั่งร้องโอ้โหทุกวัน
แต่ถ้าใช้วิธีเสียเงินแบบที่คุณ jayjay เล่ามา ระยะนี้คงไม่ไหว ถ้าเมื่อสิบปีก่อนคงพอได้
มันมีความเสี่ยงควบคู่มากับการซื้อ ads ต้องใช้ทุนหว่านทดสอบจำนวนมากๆกว่าจะเจอสัก key หนึ่งที่ได้ตังค์
หว่านไปแล้วอาจไม่เจอก็ได้ ถ้าหากอาจารย์เจอวิธีที่ไม่ต้องใช้เงิน ก็คงจะดีมาก อยากกลับไปอีกครั้ง
เอาเป็นว่าตอนนี้ มีเรื่อง KDP สั้นๆ เป็นการโหมโรง เพื่อเปิดบอร์ดใหม่ก่อน
ต่อไปถ้าเจอวิธีทำ clickbank ที่ไม่ต้องใช้ทุน ก็จะไปว่ากันในห้องลับ
เชื่อว่าคงมี วงการนี้มันมีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา
Quote from: supersonics on Jan 25, 2025, 12:33 PMสำหรับพวกเราที่เคยผ่านด่าน Public Domain จนร่ำรวยกันมาแล้วเมื่อสิบปีก่อน การใช้ AI เขียนแทนมันก็ไม่ได้ต่างกับการใช้ Public Domain เท่าใดนัก เราขายหนังสือภาษาอังกฤษที่เราไม่ได้แต่งเองเช่นกัน วิธีโน้น
ไปนั่งอ่านดูใหม่อีกรอบที่อาจารย์เขียนเกริ่นเอาไว้เรื่อง high content ว่ามันไม่ต่างจาก PD มากนัก
ก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันควัน รอติดตามครับ เรื่องนี้ไม่ต้องย่อมากก็ได้
เล่ารายละเอียดให้เต็มที่ คนไทยเรากลัวภาษาอังกฤษ ผมเองก็ไม่เก่งอังกฤษเลย แต่ยังเคยทำได้เดือนละ $1500 จาก public domain อยู่เป็นปี ถ้า high content มันครือกัน ทำไมจะทำไม่ได้
สลัดความกลัวภาษาอังกฤษทิ้งไป ลุยกันใหม่อีกรอบ
Quote from: jayjay on Jan 26, 2025, 06:37 AMไปนั่งอ่านดูใหม่อีกรอบที่อาจารย์เขียนเกริ่นเอาไว้เรื่อง high content ว่ามันไม่ต่างจาก PD มากนัก
ก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันควัน รอติดตามครับ เรื่องนี้ไม่ต้องย่อมากก็ได้
ของฟรีด้วยและดีด้วยมันไม่มี เหมือนที่เราเจอมาแล้วจากการใช้่ facebook กับการมีบอร์ดของเราเอง
การทำ high content books มีโอกาสมากกว่า low content ทั้งการผ่านการตรวจและการทำยอดขาย
แต่ต้องใช้ AI แบบเสียเงิน
chatGPT แบบฟรีมีคนใช้เยอะ จนเนื้อหาในหนังสือออกมาคล้ายคลึงกัน amazon เขาจับได้ และปฎิเสธไปบ่อยๆ จึงต้องมีการลงทุนกันบ้าง แต่ไม่สูงมาก แค่เดือนละ $15 อาจจะลองดูสักเดือนเพื่อทดสอบว่าหนังสือของเรามีการตอบรับอย่างไร ถ้าแววดี พอขายได้ ก็ไปต่อ
Quote from: supersonics on Jan 26, 2025, 07:31 AMของฟรีด้วยและดีด้วยมันไม่มี
โคตรจริงครับ
ตอนนี้ AI หลายตัวก็ปิดฟังก์ชั่นบางอย่าง ต้องเสียตังค์ถึงจะใช้ได้ รวมทั้ง Kling ที่ผมใช้จนชิน
หากต้องเสียตังค์บ้าง แต่ไม่มากเกินไปก็ต้องยอมครับ ถ้ามันมีโอกาสสร้างเงิน
การซื้อโฆษณาด้วยเงินหมื่นเงินแสน วันนี้สู้ไม่ไหว
ถ้าแค่สิบเหรียญยี่สิบเหรียญต่อเดือน เพื่อแลกร้อยเหรียญสองร้อยเหรียญ ยังพอสู้ครับ
Quote from: jayjay on Jan 26, 2025, 07:39 AMการซื้อโฆษณาด้วยเงินหมื่นเงินแสน วันนี้สู้ไม่ไหว
ถ้าแค่สิบเหรียญยี่สิบเหรียญต่อเดือน เพื่อแลกร้อยเหรียญสองร้อยเหรียญ ยังพอสู้ครับ
เป็นทัศนคติที่ถูกครับ ถ้าต้องลงทุนบ้างก็ต้องยอม ถ้ามันไม่มากเกินกำลัง
จะเลือกใช้แต่ของฟรีอย่างเดียว มันเท่ากับเราปิดโอกาสที่จะใช้ tools ดีๆอีกหลายตัว
ผมคงทำได้เพียงอธิบายวิธีการใช้ tools ต่างๆให้ดู ตัดสินใจเอาเองว่าจะไปทางนี้หรือไม่ไป
ถ้าไม่ไปทางนี้ก็จะมีทางอื่นให้เลือกอีกหลายทาง แต่ของฟรีและดีมันไม่ค่อยมี
High Content มาได้กี่วิธี1
แต่งเอง แบบนี้คนไทยไม่ค่อยถนัด แต่ก็มีคนไทยบางคนทำได้ ผมยังจำได้ว่าสมัยทำ KDP ยุคแรกๆ มีพวกเราคนหนึ่งแต่งนิยายเป็นภาษาอังกฤษเอง แทนที่จะใช้แต่ public domain และเขาก็ขายได้เสียด้วย แต่กลุ่มนี้คงเป็นเพียงส่วนน้อย
2
จ้างเขียน รูปแบบนี้ก็มีคนไทยทำเหมือนกัน และบางคนก็ขายได้ ราคาการจ้างเขียนสูงบ้างต่ำบ้าง และคุณภาพงานก็ต่างกันไปตามฝีมือของคนเขียน จ้างฝรั่งเขียนก็แพงหน่อย จ้างอินเดียก็ถูกหน่อย ในยุคอดีตมีคนไทยเลือกวิธีนี้อยู่ไม่น้อย
3
เขียนด้วย AI นี่เป็นวิธีใหม่ที่เกิดขึ้นไม่นาน และกำลังเป็นที่นิยมมาก ต้นทุนถูกกว่าการจ้างเขียน และถ้าเลือกใช้ AI แบบเสียตังค์บางตัว เช่น GravityWrite คุณภาพงานก็ถือว่าใช้ได้ สอบผ่าน และบางคนก็ขายดีทำเงินหลายพันเหรียญก็มีอยู่
4
Public Domain บางคนอาจจะร้องว่า อ้าว เขายังรับ Public Domain อีกหรือ ก็พวกเราโดนปิดแอคเคาท์กันไปมากมายเมื่อสิบปีก่อน ก็ไม่เพราะ Public Domain หรอกหรือ
จริงๆแล้ว เขาไม่ได้ปฎิเสธ PD แต่เขาปฎิเสธ PD ที่มาแบบสุกเอาเผากิน ไม่มีการดัดแปลงแก้ไข ไม่มีการเพิ่มคุณค่า ถ้าเราทำงานอย่างปราณีตบรรจง เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ PD ก็ยังใช้ได้อยู่ และมีบางคนทำเงินจาก PD เดือนละ $7000 นายคนนี้เป็นฝรั่ง แต่มานั่งส่งหนังสือ PD อยู่ในเมืองไทยนี่เอง เขากำลังใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายอยู่ที่เชียงใหม่ ด้วยรายได้เดือนละสองแสนบาทจากหนังสือ PD เพียงยี่สิบกว่าเล่ม
เราเคยทำรายได้หลักแสนจาก PD กันมาเมื่อสิบปีก่อน จะลองกันใหม่อีกรอบ โดยการทำงานให้รัดกุมขึ้น
คัดสรรงานให้เฉียบคมขึ้น ใช้ AI สร้างภาพปกและภาพประกอบขึ้นมาใหม่ให้สวยงาม ไม่ใช้วิธี spam ไม่สุกเอาเผากิน ก็ยังคุ้มค่าต่อความเสี่ยงอยู่
โอกาสโดนปฎิเสธมีไหม? มี
โอกาสโดนปิดแอคเคาท์มีไหม? มี
สองอย่างนี้มีแน่ ถ้าส่งงานมาแบบลวกๆเหมือนที่บางคนทำกันในอดีต
เอามากเข้าว่าโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ
แต่ถ้าทำงานแบบเน้นคุณภาพเฉกเช่นฝรั่งในตัวอย่างที่นั่งทำงานอยู่ในเมืองไทย โอกาสทำเงินได้หลักแสนก็มีอยู่เช่นกัน การผลิตงานชุ่ยๆทำง่าย การผลิตงานมีคุณภาพทำยาก ถ้าเราเลือกเส้นทางที่ยาก โอกาสยังพอมี
โดยสรุป ผมแนะนำหนังสือ High Content ที่ผลิตโดยสองวิธีหลัง คือ
ทำด้วย AI
และแปลงจาก PD อย่างมีคุณภาพ
การใช้ PD ไม่ง่าย นอกจากต้องเพิ่มคุณค่าให้ต้นฉบับเดิมแล้ว ยังต้องใส่ใจเรื่องการตรวจสอบลิขสิทธิ์ หนังสือที่ปลอดลิขสิทธิ์ในประเทศหนึ่ง อาจจะยังไม่ปลอดลิขสิทธิ์ในอีกประเทศหนึ่ง ดังนั้นการทำงานต้องรัดกุมมากกว่าที่เราเคยทำในอดีต แต่หลายคนทำแล้วยอมรับว่าผลตอบแทนคุ้ม จึงยังมีคนทำแนวนี้กันอยู่ นี่คือบางความเห็นของคนอังกฤษที่ทำ PD อยู่ในปัจจุบัน
"I make about £66,000 a year selling public domain books, but it's not easy. There has been a steep learning curve and honestly, working with Amazon can be a real pain sometimes. I had my account suspended once because I didn't understand copyright law properly and have had two copyright claims against me. You have to make doubly sure the books you are selling really are in the public domain because you do not want to get a nasty cease and desist letter from the estate of some dead author. Amazon will always take their side."
บรรยากาศเมื่อสิบกว่าปีก่อนหวนกลับมาอีกครั้ง
ยังนึกถึงสมัยทำ kindle เดือนละ $1500
หนังสือ eBook บุก Kindle ของอาจารย์ ผมอ่านเป็นสิบเที่ยวจนแทบจำได้ทุกหน้า
ถ้าจะย้อนกลับมาตะลุย KDP กันอีก ก็ต้องรัดกุมมากๆอย่างที่อาจารย์ว่า เพื่อไม่ให้โดนปิดแอคเคาท์กันอีก
ถ้าเป็นเมื่อสามปีที่แล้ว ผมคงไม่แนะนำให้กลับมาทำ public domain อีก
เพราะเราไม่รู้จะทำยังไงให้หนังสือมันแตกต่างจากของเดิม
เมื่อไม่มีความแตกต่างอะไรเลย โอกาสที่หนังสือจะถูกปฎิเสธ หรือถูกปิดแอคเคาท์มีสูง
แต่การมาของ AI เมื่อสองปีที่แล้วทำให้สถานการณ์เปลี่ยน
เราสามารถเพิ่มภาพประกอบใหม่เข้าไปในหนังสือได้อย่างรวดเร็วและงดงาม
ทำให้หนังสือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ดูจากคลิปฝรั่ง เขาบอกว่า AI ช่วยสร้างความแตกต่างได้มากครับ
ถ้าคิดจะกลับมาทำอีก ก็ต้องกระจายความเสี่ยงเอาไว้ อย่าไปคาดหวังกับมันมากนัก เพราะอาจจะถูกปิดแอคเคาท์เมื่อไหร่ก็ได้ กระจายน้ำหนักไปสักสามสี่อย่าง adobe บ้าง redbubble บ้าง merch บ้าง ถ้าได้อย่างละ $200 มันก็พอไหว ถ้าเกิดตัวใดตัวหนึ่งโดนปิดแอคเคาท์ เราก็ยังไปต่อได้
ลองดูสัก 2-3 เล่ม ว่ามันจะมีปัญหาหรือเปล่า ถ้าไม่มีปัญหาก็ค่อยๆทยอยทำไปทีละนิดละหน่อย ตอนนี้ผมลองไปแล้ว 3 เล่ม ยังจำได้ว่าเรื่องไหนเคยขายดีเมื่อสิบปีก่อน ก็เอาเรื่องนั้นมาส่งอีก แก้ไขด้วย AI เปลี่ยนปกเปลี่ยนภาพประกอบจนอลังการ ตอนนี้ยังไม่มีปัญหา พอขายได้ ก็จะลองส่งเพิ่มไปอีกเดือนละสองสามเล่ม ไม่คาดหวังว่าจะได้เดือนละ $7000 เหมือนในตัวอย่างหรอก สัก $200 ก็แจ๋วแล้ว
เก็บเล็กผสมน้อยไปจากตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง อีกไม่นานคงถึง $1000 ถ้าเกิดปุบปับโดนปิดแอคเคาท์ขึ้นมาอีก
เราก็ยังมีช่องทางอื่น
ผมดูคลิปฝรั่งที่อาจารย์โพสท์ไว้ แต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกครับ คงต้องรอให้อาจารย์มาขยายความอีกที
หนังสือเรื่อง Kindle เก่าๆ ไม่เหลือแล้ว เพราะบ้านเจอน้ำท่วมหลายที เก็บไม่ทัน
เลยเปื่อยยุ่ยยิ่งกว่าเอ็นเปื่อยยุ่ยเสียอีก
รอบนี้เราคงเน้นที่หนังสือเล่ม ไม่ใช่ kindle แต่หลักการพื้นฐานอันเดียวกัน
ไม่ทราบว่าอาจารย์ยังมีเวอร์ชั่น ebook ให้ดาวน์โหลดไหมครับ อยากทบทวนใหม่
อ่านที่อาจารย์เล่ามาก็น่าทำครับ ทำน้อยๆ แต่สร้างความแตกต่างให้มาก อย่าซ้ำรอยเดิม
โอกาสอยู่ยาวน่าจะพอมี ที่โดนปิดแอคเคาท์กันโครมๆเมื่อก่อนคือเอาเร็วเข้าว่า หาคุณค่าไม่ได้
ที่จริงผมก็ใส่มูลค่าเพิ่มไปพอสมควรครับ แต่ของคนอื่นที่เขาไม่ได้ทำมีมากกว่า
เขาเห็นหนังสือห่วยๆส่งมาจากประเทศไทยเยอะมาก ก็เล่นงานเป็นรายประเทศไปเลย
เก็บกวาดง่ายดี ตอนนั้นที่เคยได้เดือนละหลายหมื่น หายวับไปเลย
Quote from: Doody on Jan 27, 2025, 07:56 AMไม่ทราบว่าอาจารย์ยังมีเวอร์ชั่น ebook ให้ดาวน์โหลดไหมครับ อยากทบทวนใหม่
ebook อยู่ใน server ของบอร์ดเก่า พอปิดบอร์ดไป ข้อมูลทุกอย่างหายหมด
ตอนนั้นไม่ได้อาลัยอาวรณ์ เพราะนึกว่าเอามาใช้อะไรไม่ได้แล้ว
แต่เพิ่งมาเห็นฝรั่งเขาเอา AI มาประยุกต์ใช้กับ PD มันกำลังไปกันได้ดี ก็นึกเสียดายเหมือนกัน
PD เราก็เคยศึกษามา AI เราก็รู้ วันนี้มันเกิดลงตัวกันพอดี
เดี๋ยวก็จะมาทบทวนกันใหม่ ผมไม่มีแล้วทั้ง ebook ทั้งหนังสือเล่ม แต่ยังพอจำเนื้อหาได้
จะนั่งทวนความทรงจำกันอีกรอบ
ถ้าเดินตามแนวที่อาจารย์แนะนำคือ ใช้ AI+PD
เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ น่าจะพอมีโอกาสครับ
ไม่ต้องถึง $7000 อย่างพวกเขาหรอก
$700 ทำดีๆน่าจะมีสิทธิ์
ขอรายละเอียดปลีกย่อยที่ควรรู้ให้มากกว่านี้หน่อย เพราะไม่ได้ทำนานแล้วเหมือนกัน ลืมเกือบหมดแล้วครับ
บางขั้นตอนยังจำได้ แต่บางอย่างก็ไม่เหลือแล้ว จะลองดูสักเล่มสองเล่มก่อน
ผมรู้สึกว่าหนังสือเรื่อง Kindle จะไม่มีเป็นเล่มนะครับ รู้สึกว่าจะมีเหตุการณ์เร่งด่วนอะไรสักอย่างจึงจำเป็นต้องออกเป็น e-book ถ้าออกเป็นหนังสือผมจะต้องมี ที่เป็นหนังสือเล่มก็มีอยู่ที่ผมแค่ที่เห็น ถ้าพี่ซุปฯ ต้องการเล่มใหนมาระลึกชาติผมจะส่งมาให้ครับ
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_20250127_145540-03.jpg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_20250127_145704-02.jpg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/011a830d661a2c668d.jpg)
Quote from: พัฒน์ on Jan 27, 2025, 03:21 PMผมรู้สึกว่าหนังสือเรื่อง Kindle จะไม่มีเป็นเล่มนะครับ รู้สึกว่าจะมีเหตุการณ์เร่งด่วนอะไรสักอย่างจึงจำเป็นต้องออกเป็น e-book ถ้าออกเป็นหนังสือผมจะต้องมี ที่เป็นหนังสือเล่มก็มีอยู่ที่ผมแค่ที่เห็น ถ้าพี่ซุปฯ ต้องการเล่มใหนมาระลึกชาติผมจะส่งมาให้ครับ
ยังเก็บรักษาไว้เกือบครบทุกเล่ม
clickbank 16 ปี ส่วนเรื่อง mobile site น่าจะ 15 ปีมาแล้ว
ของผมเหลือสองสามเล่ม ส่วนมากไม่มีแล้ว
ทีแรกจะเก็บไว้เองอย่างละเล่ม ก็มีน้องๆที่เข้ามาทีหลังติดต่อมาขอซื้อจนได้
ถ้าอยากระลึกชาติเล่มไหนค่อยติดต่อมาอีกที
ตอนนี้เฉพาะเรื่อง public domain ลืมไปแล้วบางส่วน แต่ยังพอหาข้อมูลในเน็ตได้
ทำคลิปไปปล่อยในช่อง IM Extra ซึ่งไม่ได้อัพเดทเกือบสองปีแล้ว
คนดูคลิปที่ถูกใจจะได้ตามมาเยี่ยมเว็บบอร์ดบ้าง
บอร์ดเราจะได้ไม่เงียบเกินไป มีเลือดใหม่ไหลเข้ามาบ้าง
Quote from: supersonics on Jan 27, 2025, 07:37 PMทำคลิปไปปล่อยในช่อง IM Extra ซึ่งไม่ได้อัพเดทเกือบสองปีแล้ว
คนดูคลิปที่ถูกใจจะได้ตามมาเยี่ยมเว็บบอร์ดบ้าง
บอร์ดเราจะได้ไม่เงียบเกินไป มีเลือดใหม่ไหลเข้ามาบ้าง
ดีครับ จะได้มีหน้าใหม่ๆเข้ามาบ้าง ไม่มีแต่คนแก่สามสี่คนนั่งเล่าความหลังกันอยู่เงียบๆ
ส่วนสมาชิกเก่าๆ ผมว่าเขาแยกย้ายไปทำอย่างอื่นกันหมดแล้ว เลิกสนใจ IM แบบถาวร
บางคนไปเป็นเซียนหุ้น เซียนพระ ความสนใจเปลี่ยนไปแล้ว เหลือแฟนพันธุ์แท้ไม่ถึงสิบคนหรอกครับ
Quote from: jayjay on Jan 28, 2025, 05:38 AMส่วนสมาชิกเก่าๆ ผมว่าเขาแยกย้ายไปทำอย่างอื่นกันหมดแล้ว เลิกสนใจ IM แบบถาวร
บางคนไปเป็นเซียนหุ้น เซียนพระ ความสนใจเปลี่ยนไปแล้ว เหลือแฟนพันธุ์แท้ไม่ถึงสิบคนหรอกครับ
เว็บบอร์ดเป็น social media ยุคแรกๆในสมัยที่ยังไม่มี youtube, tiktok, ig, facebook
พวกเรารุ่นเก่าๆจะคุ้นเคยกับเว็บบอร์ด แต่คนรุ่นใหม่เขาไม่ชิน ไม่ชอบ ไม่ค่อยอยากเข้ามาหรอกครับ
สมาชิกเก่าๆเขาติดตามบอร์ดอาจารย์ในวัยที่เขาเป็นนักเรียนนักศึกษา หรือเพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ
อยากหารายได้พิเศษ หาค่าหน่วยกิต ตอนนี้เขาทำงานทำการเงินเดือนดี เขาก็ถอยออกไปหางานอดิเรก
อย่างอื่นทำ ไปเล่นหุ้น เล่นคริปโต สนุกกว่า ส่วน internet marketing เป็นเรื่องของคนโบราณไปแล้ว
พวกเราคนโบราณไม่มีทุนจะไปเล่นคริปโต ก็อยู่ที่เดิมนี่แหละ เหลือกันแค่ไหนก็แค่นั้น
Quote from: Doody on Jan 28, 2025, 06:15 AMสมาชิกเก่าๆเขาติดตามบอร์ดอาจารย์ในวัยที่เขาเป็นนักเรียนนักศึกษา หรือเพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ
อยากหารายได้พิเศษ หาค่าหน่วยกิต ตอนนี้เขาทำงานทำการเงินเดือนดี เขาก็ถอยออกไปหางานอดิเรก
อย่างอื่นทำ ไปเล่นหุ้น เล่นคริปโต สนุกกว่า ส่วน internet marketing เป็นเรื่องของคนโบราณไปแล้ว
พวกเราคนโบราณไม่มีทุนจะไปเล่นคริปโต ก็อยู่ที่เดิมนี่แหละ เหลือกันแค่ไหนก็แค่นั้น
น่าจะมีส่วนจริง ตอนจัดสัมมนาสองสามครั้งแรก ผมได้คุยกับสมาชิกบางคน แต่ไม่ครบทุกคน
หลายคนยังเป็นนักศึกษาอยู่ มาศึกษาเรื่องนี้เพื่อหารายได้พิเศษ
ตอนนี้มีงานมีการทำ มีรายได้ดี เขาไปเล่นหุ้นเล่นคริปโตกันหมดแล้ว
คลิปฝรั่ง 3 คลิปที่อาจารย์โพสท์ไว้ ฟังไม่รู้เรื่องครับ แต่คลิปของอาจารย์ 1 คลิป รู้เรื่อง
อยากทราบว่าถ้าเรากลับมาทำ public domain กันอีก โอกาสจะโดนปิดแอคเคาท์กันอีกมีมากน้อยแค่ไหน
และถ้าทำกันมากๆ จะโดนปิดยกประเทศเหมือนครั้งที่แล้วอีกหรือเปล่า
Quote from: jayjay on Jan 28, 2025, 05:08 PMคลิปฝรั่ง 3 คลิปที่อาจารย์โพสท์ไว้ ฟังไม่รู้เรื่องครับ แต่คลิปของอาจารย์ 1 คลิป รู้เรื่อง
อยากทราบว่าถ้าเรากลับมาทำ public domain กันอีก โอกาสจะโดนปิดแอคเคาท์กันอีกมีมากน้อยแค่ไหน
และถ้าทำกันมากๆ จะโดนปิดยกประเทศเหมือนครั้งที่แล้วอีกหรือเปล่า
เหตุผลที่โดนปิดในยุคโน้น คือ No Differentiation คือ ไม่ได้สร้างความแตกต่างเพียงพอ
ไม่ได้สร้าง Good Customer Experience
ความสามารถที่จะสร้างความแตกต่างของเรามีจำกัดมาก
ในบอร์ดเราเอง แม้ผมจะแนะนำให้ค้นหาประวัติผู้แต่งมาลงไว้ด้วย เขาก็ยังหาว่าแตกต่างไม่พอ
ผลงานที่มาจากบอร์ดอื่น ยิ่งแย่กว่าของเราอีก คือไม่ได้เพิ่มเติมอะไรเลย
เมื่อส่งกันแบบเดียวกันมามากๆ คือไม่มีมูลค่าเพิ่มเลย เขาเลยเก็บกวาดไปทีเดียวยกประเทศ
แต่เขาไม่ได้ปิดกั้น public domain เสียทีเดียว ยังเปิดทางอยู่ เงื่อนไขคือต้องไปสร้างความแตกต่างเสียก่อน
ฝรั่งบางคนลงทุนจ้างคนวาดภาพประกอบขึ้นมาใหม่ ใช้เงินไปเป็นพันเหรียญต่อเล่ม แล้วก็ยังขายได้มาเรื่อยๆ ไม่ถูกปิดแอคเคาท์เหมือนเรา แต่เราไปเลียนแบบเขาไม่ได้ เพราะเราไม่มีทุน
วันนั้นไม่มี AI แต่วันนี้เรามี AI วันนี้เราสร้าง Differentiation ได้แน่นอน
โอกาสโดนปิดแอคเคาท์ก็มีบ้าง แต่น้อยกว่าวันนั้น
และคนไทยก็คงไม่เฮโลกันมาทำมากมายเหมือนตอนนั้นหรอก เพราะมันไม่ง่ายเหมือนอดีต ในอดีตคือ copy> paste ใครๆก็ทำได้ แต่วันนี้ถ้าจะสร้างภาพประกอบขึ้นมาใหม่ด้วย AI คุณก็ต้องทำความเข้าใจกับหนังสือ รู้จักตัวละคร รู้จักการใช้ AI อย่างแคล่วคล่องด้วย ไม่ใช่จู่ๆใครจะทำได้ ถ้าไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็ต้องใช้ google translate ช่วย เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาย่อๆก่อน รู้ว่าตัวละครมีใครบ้าง รู้ว่าจะสร้างภาพออกมาในลักษณะใด
มันไม่ง่ายเหมือนวันนั้น แต่ก็คงไม่ยากเกินไปถ้าเอาจริง อะไรที่ยุ่งยากซับซ้อนมาก คนไทยไม่ค่อยทำ ผมจึงเห็นคนไทยทำกันแต่ low content และ coloring book
สรุปคือ ถ้าจะกลับมาทำ public domain อีก ขั้นตอนมีมากกว่าเดิม แต่โอกาสจะอยู่ยาวมีมาก และคนไทยคงไม่ลงมาแข่งกับเราเยอะหรอก ผมดูใน youtube แล้ว ไม่เห็นมีกูรูชาวไทยคนไหนพูดถึงเลย ทั้งๆที่โอกาสพอมองเห็นอยู่ AI ช่วยเปิดทางให้เราแล้ว และหนังสือ pd มีเป็นล้านๆเล่ม ตอนนี้มีแต่ฝรั่งทำกัน
พอเข้าใจแล้วครับว่าทำไมมีแต่ฝรั่งทำกัน กูรูไทยไม่สอนเรื่องนี้เลย
ถ้าอาจารย์ช่วยไกด์ให้เห็นขั้นตอนแบบชัดเจน ผมคิดว่ายังน่าทำอยู่ดี
คนไทยเราเล่นแต่ coloring book ตอนนี้จะเหยียบกันตายแล้ว ai ท่วมตลาดเหมือนที่อาจารย์ว่า
ของผมก็ยอดขายเงียบไปพักหนึ่งแล้ว เมื่อก่อนแต่ละเล่มจะขายได้บ้าง 4 ครั้งต่อปี
มี 100 เล่ม ก็ได้ 400 sales ต่อปี ยังพอได้เดือนละ $50 ตอนนี้เงียบมากครับ
Quote from: jayjay on Jan 28, 2025, 05:46 PMของผมก็ยอดขายเงียบไปพักหนึ่งแล้ว เมื่อก่อนแต่ละเล่มจะขายได้บ้าง 4 ครั้งต่อปี
มี 100 เล่ม ก็ได้ 400 sales ต่อปี ยังพอได้เดือนละ $50 ตอนนี้เงียบมากครับ
เลือกทางง่าย คนก็เดินกันเยอะ
เลือกทางที่ยากกว่า ไม่ต้องเบียดกับใคร
ผมฟังคลิปที่ฝรั่งในคลิปแรกพูด มันบอกว่าจะไปเสียเวลากับ low content/medium content ทำไม ในเมื่อมี PD มีอยู่ไม่รู้กี่ล้านเล่ม
เขาฉวยโอกาสจาก AI ก่อนเรา เรามาช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร เขาเพิ่งวิ่งนำไปไม่นาน
ขอให้อาจารย์ช่วยไกด์ให้เห็นขั้นตอน เชื่อว่าพอทำได้ครับ
ยากกว่าแบบเดิมแน่นอน แต่เห็นยอด $7K ต่อเดือนของนายคนนั้นแล้ว ยังไงก็ต้องลองครับ
Quote from: jayjay on Jan 28, 2025, 06:01 PMขอให้อาจารย์ช่วยไกด์ให้เห็นขั้นตอน เชื่อว่าพอทำได้ครับ
ยากกว่าแบบเดิมแน่นอน แต่เห็นยอด $7K ต่อเดือนของนายคนนั้นแล้ว ยังไงก็ต้องลองครับ
ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนอื่นมาถล่มกันเยอะจนสนามพังเร็วเหมือนเมื่อครั้งโน้นหรอก
ผมสัมผัสได้จากคลิปใน youtube ของผมเอง
คลิปที่พูดถึง coloring book มีคนดู 4000 วันแรกก็เกือบพันแล้ว
คลิปล่าสุดพูดถึง public domain มีคนดู 30 คน
รู้สึกได้ทันทีว่าเรื่องนี้ไม่มีใครสนใจ คงมีแต่พวกเรากลุ่มเล็กๆนี่แหละ
copy and paste คนไทยเราถนัด
แต่ถ้าต้องทำความเข้าใจเนื้อหาก่อน ปั่นไม่ได้ ผมว่าคนไทยไม่ทำเยอะหรอกครับ
Article Marketing เราทำเป็นกลุ่มแรก
Public Domain + Kindle เราทำเป็นกลุ่มแรก
Video Apps เราลองก่อนใครเพื่อน
มีอีกหลายเรื่องที่ทำเงินกันถล่มทลาย เพราะเราทำก่อนคนอื่น
PD + AI เรื่องนี้ค่อนข้างใหม่ ยังไม่เห็นกูรูชาวไทยคนไหนสอน
กว่าจะมีคนรู้คงอีกนาน
ทุกขั้นตอนมี AI ช่วย ไม่ต้องกังวลมาก
สรุปย่อเนื้อหาในหนังสือภาษาอังกฤษด้วย AI
แปลอังกฤษเป็นไทยด้วย AI
เขียน prompts ด้วย AI
สร้างภาพประกอบด้วย AI
ใช้ ai ทุกขั้นตอน เพียงแต่เราเลือกให้ถูกว่าจะใช้ตัวไหนในขั้นตอนนั้นๆ
ผมศึกษาของฝรั่งมาแล้ว ไม่ยากเกินไป เราทำได้ แต่เห็นด้วยว่าคนไทยคงไม่ค่อยนิยมทำกันหรอก
ขั้นตอนมันเยอะไป ไม่ใช่ copy>paste
ลองสัก 2-3 เล่มก็ได้ แล้วค่อยพิจารณาว่าจะไปต่อดีหรือไม่
-PD มีอยู่ไม่รู้กี่ล้านเล่ม
-ทุกขั้นตอนมี AI ช่วย
-สรุปย่อเนื้อหาในหนังสือภาษาอังกฤษด้วย AI
-แปลอังกฤษเป็นไทยด้วย AI
-เขียน prompts ด้วย AI
-สร้างภาพประกอบด้วย AI
แบบนี้ต้องลุย มีโอกาสแล้วต้องคว้าเอาไว้ ที่ผ่านมาเราทำอะไรที่มันยากๆ มาเยอะ ถ้าจะมาทำหนังสือ PD กันอีกสักรอบมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเหลือบ่ากว่าแรงอะไร ลุยครับ ฟันเธอ เอ๊ย ฟันธง..!
Quote from: พัฒน์ on Jan 29, 2025, 07:29 AMแบบนี้ต้องลุย มีโอกาสแล้วต้องคว้าเอาไว้ ที่ผ่านมาเราทำอะไรที่มันยากๆ มาเยอะ ถ้าจะมาทำหนังสือ PD กันอีกสักรอบมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเหลือบ่ากว่าแรงอะไร ลุยครับ ฟันเธอ เอ๊ย ฟันธง..!
ใช่ครับ มีโอกาสต้องคว้าไว้ จะไปไกลได้แค่ไหนก็ค่อยว่ากันที
ถ้าจะต้องโดนปิดแอคเคาท์อีกรอบก็ค่อยว่ากันใหม่
ดูขั้นตอนแล้ว เรื่องอื่นที่เคยทำมายังยากกว่านี้ เช่น IOS Apps, GameMaker
IOS Apps ผมว่ายากที่สุดแล้ว แต่ผมก็ยังทำออกไปวางตลาดได้เกือบ 40 ตัว
ตอนนั้นได้ 200 เหรียญต่อเดือนจาก IOS อยู่หกเดือน แล้วเงียบไป แต่ว่าได้ความรู้เหลือล้น
ส่วน gamemaker ได้เยอะกว่า น่าจะ $300-400 ต่อเดือน อยู่ได้ปีเดียว
มีของใหม่ก็ต้องลุย มีอุปสรรคอะไรก็ค่อยไปสู้กันข้างหน้า
ดูคลิปฝรั่งที่เขาพูดเรื่องนี้กัน ผมก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก ถ้าอาจารย์ช่วยสรุปย่อให้ฟังว่าเขาพูดอะไรกันจะดีมาก
ผมว่าเรื่องนี้ยังไงคนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยทำกันหรอก หลายขั้นตอน ปั่นยาก ใช้ภาษาอังกฤษเยอะ
เห็นคลิปของอาจารย์ใน youtube ไม่ค่อยมีคนดู ทั้งๆที่เนื้อหาสาระดีมาก ผมก็เดาได้แล้วเขาไม่เอา
คนไทยชอบอะไรง่ายๆครับ
เกิดผิดพลาดเล็กน้อย
Quote from: Doody on Jan 29, 2025, 08:56 AMเกิดผิดพลาดเล็กน้อย
ผมจะโพสท์ข้อความของผมเอง
แต่ login ในฐานะ admin ซึ่งสามารถแก้ไขข้อความของทุกคนได้
แทนที่จะโพสท์ข้อความในชื่อตัวเอง ดันไปโพสท์ทับข้อความของคุณ Doody เข้า
คุณจะโพสท์อะไร ก็ช่วยเขียนใหม่ด้วยครับ ผมเผลอไปลบของคุณออก
Quote from: supersonics on Jan 29, 2025, 09:06 AMQuote from: Doody on Jan 29, 2025, 08:56 AMเกิดผิดพลาดเล็กน้อย
ผมจะโพสท์ข้อความของผมเอง
แต่ login ในฐานะ admin ซึ่งสามารถแก้ไขข้อความของทุกคนได้
แทนที่จะโพสท์ข้อความในชื่อตัวเอง ดันไปโพสท์ทับข้อความของคุณ Doody เข้า
คุณจะโพสท์อะไร ก็ช่วยเขียนใหม่ด้วยครับ ผมเผลอไปลบของคุณออก
ผมก็งงไปเหมือนกันครับ โพสท์อย่างหนึ่ง ทำไมออกมาเป็นอีกอย่างหนึ่ง
ไม่เป็นไรครับ ผิดพลาดกันได้ บางทีจะคลิก reply ดันไปคลิก edit
อยู่ทีบอร์ดเก่าก็เคยขึ้นหลายทีแล้ว
สมาชิกทั่วไป edit ได้เฉพาะของตัวเอง แต่ admin แก้ไขได้หมด
ถ้าอาจารย์เผลอลบไปแล้วก็ไม่เป็นไรครับ ผมก็โพสท์ไปเรื่อยเปื่อย ลืมไปแล้วว่าเขียนอะไร
ขอขั้นตอบแบบ step by step เหมือนสมัยทำ kindle เมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ไหมครับ
Quote from: jayjay on Jan 29, 2025, 12:29 PMขอขั้นตอบแบบ step by step เหมือนสมัยทำ kindle เมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ไหมครับ
ขั้นตอบแบบ step by step จะแสดงให้ดูในห้องลับ
ส่วนที่เปิดเผยต่อสาธารณะคือ ข้อมูลพื้นฐานที่ใครๆก็ค้นหาได้
งั้นก็โอเคครับ มันนานหลายปีแล้ว ผมลืมขั้นตอนไปแล้ว มาวันนี้ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
ถ้าไม่แสดงแบบ step by step ไปไม่ถูกแน่ครับ
หนังสือ kdp ที่ส่งไปเป็น low content กับ coloring book
เพิ่งหัดทำตอนอาจารย์สอนเรื่อง midjourney เมื่อสองปีก่อน ขายได้วันละ 1 เล่ม
แบบ high content ไม่มีสักเล่ม
ห้องลับจะมีรายละเอียดมากกว่านี้
อันไหนพอเปิดได้ก็จะเปิด แต่ถ้าเปิดมากเกินไปก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน
ยังจำอดีตที่มีคนมาลอกเอาข้อมูลของเราไปปล่อยที่บอร์ดอื่น แล้วตั้งตัวเป็นกูรูเสียเอง
ผมใช้เวลาสี่เดือนเพื่อค้นคว้าหาข้อมูลของฝรั่งมา เขาใช้เวลา copy วันเดียว
Quote from: supersonics on Jan 29, 2025, 01:18 PMยังจำอดีตที่มีคนมาลอกเอาข้อมูลของเราไปปล่อยที่บอร์ดอื่น แล้วตั้งตัวเป็นกูรูเสียเอง
ผมใช้เวลาสี่เดือนเพื่อค้นคว้าหาข้อมูลของฝรั่งมา เขาใช้เวลา copy วันเดียว
https://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=233207.0
ผมยังจำเขาคนนั้นได้ดี เชื่อว่าทุกคนที่ติดตามอาจารย์มาตั้งแต่ต้น รู้สึกไม่พอใจทั้งนั้น
เราทำของเราอยู่ดีๆ พอเขาเอาไปโพสท์ที่อื่นแค่สองอาทิตย์ ก็มีการ spam เกิดขึ้นขนานใหญ่
รายได้ของพวกเราตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว และต่อมาก็โดนเช็คบิล โดนปิดบัญชีกันระนาว
ข้อมูลอันไหนไม่อยากเปิด เอาไปคุยกันในห้องลับนั่นเป็นความคิดที่ถูกแล้วครับ เราควบคุมคนดูได้
16-17 ปีมาแล้ว คุณ jayjay ยังจำได้
ผมชักเลือนๆไปแล้ว เพราะหลังจากนั้นเรามีแนวทางอื่นที่ทำเงินได้มากกว่า
แต่ผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกันนะตอนนั้น เมื่อก่อนเขาก็เป็นลูกศิษย์อาจารย์ เข้ามาโพสท์คำถามทุกวัน
พอความรู้แน่นขึ้นก็ไปตั้งตัวเป็นกูรูเอง ไม่เคยเอ่ยถึงอาจารย์ซุป จะขอบคุณคนที่ถ่ายทอดความรู้ให้ก็ไม่มีสักคำ
ต่อมาไปเปิดคอร์สสอนจนร่ำรวย
Quote from: Doody on Jan 29, 2025, 01:44 PM16-17 ปีมาแล้ว คุณ jayjay ยังจำได้
จำได้ดีเลยครับ รายได้เดือนละ $1500 ไม่ใช่น้อยเลยครับสำหรับข้าราชการจนๆ มากกว่าเงินเดือนประจำถึงสามเท่า รายได้ตรงนี้ช่วยจุนเจือครอบครัวผมได้มากในขณะนั้น พอมันหายไป แทบนั่งปาดน้ำตาเลย
ถ้าเราช่วยกันรักษามันไว้ อาจจะอยู่ได้อีกเป็นปี คนนี้เอาไปเผยแพร่ต่อ แล้วอธิบายไม่หมด แค่เปลือกๆ
คนทำตามก็ทำกันผิดๆถูกๆ อีกไม่กี่เดือนก็พัง เขาได้เงิน ได้ชื่อเสียง มีคนยกย่องให้เป็นกูรู
แต่คนตัวเล็กๆอย่างเราๆที่กำลังมีรายได้พิเศษเข้ามาบ้าง จบเลย
คลิปแรกพอมีคนดูบ้าง ก็เลยมีแรงทำคลิปที่ 2
ใครดูแล้วอาจจะคลับคล้ายคลับคลาว่าคุ้นๆ
มันเป็นเนื้อหาเก่าที่อยู่ในหลักสูตร TikTok Marketing เมื่อสองปีก่อน เอามา recycle ใหม่
เปลี่ยนภาพประกอบ แต่เนื้อหาเดิมๆที่เคยอธิบายไปแล้วเรื่องการทำการตลาด coloring books บน TikTok ใครลืมไปแล้วจะได้ทบทวนใหม่ ใครไม่เคยทำมาก่อนอาจเกิดประกายไฟนึกอยากจะทำขึ้นมาบ้าง
Quote from: supersonics on Feb 02, 2025, 12:08 PMมันเป็นเนื้อหาเก่าที่อยู่ในหลักสูตร TikTok Marketing เมื่อสองปีก่อน เอามา recycle ใหม่
เปลี่ยนภาพประกอบ แต่เนื้อหาเดิมๆที่เคยอธิบายไปแล้วเรื่องการทำการตลาด coloring books บน TikTok ใครลืมไปแล้วจะได้ทบทวนใหม่ ใครไม่เคยทำมาก่อนอาจเกิดประกายไฟนึกอยากจะทำขึ้นมาบ้าง
เนื้อหาเก่าแต่พากษ์ใหม่ สนุกกว่าต้นฉบับเดิม
ผมดูทีแรกก็ไม่คุ้น พอมาถึงตอนกลางๆ อ้าว วิธีนี้อาจารย์เคยสอนมาแล้ว ผมทำไปนิดหนึ่งแล้ววาง
Quote from: jayjay on Feb 02, 2025, 12:49 PMเนื้อหาเก่าแต่พากษ์ใหม่ สนุกกว่าต้นฉบับเดิม
ผมดูทีแรกก็ไม่คุ้น พอมาถึงตอนกลางๆ อ้าว วิธีนี้อาจารย์เคยสอนมาแล้ว ผมทำไปนิดหนึ่งแล้ววาง
ถ้าคนดูคลิปแรกไม่ถึง 100 จะไม่ทำต่อแล้ว
แต่เมื่อคนดูเกิน 100 ก็จะหยิบเรื่องเก่ามาปัดฝุ่นโพสท์ไปเรื่อยๆ
บางเรื่องหลายคนลืมไปแล้ว แต่ยังมีประโยชน์อยู่ ถือว่ามาทบทวนกันใหม่
ข้อมูลเก่า แต่มีแทรกอะไรใหม่ๆเข้าไปด้วย ยังน่าดูอยู่ครับ
ยังมีอีกหลายประเด็น หลายหัวข้อ ที่อาจารย์เคยสอนไว้นานมาแล้ว คงจะเอามาทำคลิปแบบนี้ได้อีกเยอะ
ถึงผมจะไม่ได้ทำ coloring book แต่ดูแล้วได้ความรู้ครับ
Quote from: Doody on Feb 02, 2025, 02:08 PMข้อมูลเก่า แต่มีแทรกอะไรใหม่ๆเข้าไปด้วย ยังน่าดูอยู่ครับ
ยังมีอีกหลายประเด็น หลายหัวข้อ ที่อาจารย์เคยสอนไว้นานมาแล้ว คงจะเอามาทำคลิปแบบนี้ได้อีกเยอะ
ถึงผมจะไม่ได้ทำ coloring book แต่ดูแล้วได้ความรู้ครับ
เอาเรื่องเก่ามาพากษ์ใหม่ ทำไม่ยากครับ
ส่วนที่ยากที่สุดคือการหาข้อมูล กว่าจะรวบรวมข้อมูลมาได้เพียงพอที่จะอธิบายได้ใช้เวลาหลายอาทิตย์
แค่เอาของเก่ามาบรรยายใหม่ ทำวันละคลิปก็ได้
หลายหลักสูตรเก่าๆที่พวกเราผ่านตามานานแล้ว คนที่ยังไม่รู้ยังมีอยู่ จนทุกวันนี้คนที่ไม่รู้ว่า public domain คืออะไร ก็ยังมีอยู่นับไม่ถ้วน ขณะที่พวกเราใช้งานมันมาเกือบยี่สิบปีแล้ว วิธีที่ผมแสดงในคลิปล่าสุดนี้ ก็มีคนบอกว่าไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะที่พวกเราทำกันมาสองปีแล้ว
เรื่องขาย coloring book บน tiktok ผมทำอยู่แป๊บหนึ่ง แล้วไม่ได้ทำต่อ เวลาไม่พอ
ทำคลิปด้วย videoscribe อยู่สองสามอาทิตย์แล้วหยุด เพราะมีแนวอื่นที่ยังทำค้างอยู่ ไม่รู้จะแบ่งเวลายังไง
ที่อาจารย์สอนมา ผมทำจริงแค่ 20% เท่านั้น บางเรื่องผมไม่ได้ทำเลย บางเรื่องก็ทำแล้วหยุดกลางคัน แต่ความรู้ความเข้าใจที่ได้มา ยังรู้สึกว่าคุ้มค่าที่ได้ศึกษามัน เช่น เรื่อง nft/crypto/digital wallet ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็ได้มาเรียนรู้จากอาจารย์นี่แหละ ตอนนี้รู้และเข้าใจหมดทุกอย่าง ถึงแม้จะไม่ได้ทำแล้วก็ตาม
เรื่อง blender, etsy, yt shorts และอีกหลายเรื่อง วันนี้ไม่ได้ทำแล้ว แต่ยังรู้สึกดีใจที่ได้รู้จักมัน
เก็บของเก่าที่พวกเราผ่านมาหลายปีแล้วไปปล่อยที่อื่นบ้างดีแล้วครับ
มันอาจจะเก่าสำหรับเรา แต่เป็นของใหม่สำหรับคนอื่น
เราไม่ได้ใช้เป็นประโยชน์แล้ว แต่คนอื่นเขาอาจจะเอาไปใช้หาประโยชน์ได้
Quote from: jayjay on Feb 03, 2025, 10:24 AMเก็บของเก่าที่พวกเราผ่านมาหลายปีแล้วไปปล่อยที่อื่นบ้างดีแล้วครับ
มันอาจจะเก่าสำหรับเรา แต่เป็นของใหม่สำหรับคนอื่น
ลองดูไปก่อน ถ้าทำแล้วมีคนดูก็ทำต่อ ถ้าไม่มีคนดูก็หยุด
แต่ข้อมูลในหลักสูตรเก่าเมื่อสองสามปีที่ผ่านมายังมีอีกเยอะ ยังพอหยิบมาใช้ได้อีกไม่ใช่น้อย
สวัสดีครับอ.supersonics ผมโอนค่าห้องลับแล้วครับ
1000 บาท เข้าธนาคารกสิกรไทย เวลา 9 โมงเช้า 32 นาทีครับ
ขอบคุณอ.มากๆครับ
Quote from: longtam on Mar 12, 2025, 10:13 AMสวัสดีครับอ.supersonics ผมโอนค่าห้องลับแล้วครับ
1000 บาท เข้าธนาคารกสิกรไทย เวลา 9 โมงเช้า 32 นาทีครับ
ขอบคุณอ.มากๆครับ
ยินดีต้อนรับกลับมาอีกครั้งครับ คุณ longtam ติดตามกันมา 16-17 ปีแล้ว
พวกเรายังเอ่ยชื่อคุณ longtam บ่อยๆ เมื่อเล่าย้อนอดีตสมัยทำ KDP ยุคแรกๆ
สวัสดีครับ อาจารย์ และพี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน
มัวแต่ไปขายต้นไม้อยู่ที่เฟสบุ๊คเลยไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเลยครับ พอดีพี่พัฒน์ บอกว่าอาจารย์กำลังสอนทำ KDP โดยใช้ PD
ก็เลยเข้ามาตามหาดอลล่าร์ บ้างครับ
ขายต้นไม้ ถึงจะขายดีแต่ผลิตไม่ค่อยทัน และเหนื่อยด้วยครับ พักไม่ได้ ไม่เหมือนแนวนี้ เหนื่อยครั้งเดียวอยู๋ได้นาน