News:

SMF - Just Installed!

Main Menu

Recent posts

#91
Quote from: supersonics on Jan 25, 2025, 02:10 PMถ้าจะย้อนกลับไป clickbank ก้ต้องด้วยวิธีที่ไม่ต้องใช้เงิน
ส่วน kdp ยังพอไปได้โดยไม่ต้องใช้ทุน เลยจะว่ากันเรื่องนี้ก่อน
หากเจอวิธีทำ clickbank แบบออกแรง แต่ไม่ต้องออกเงิน ค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้เอาเรื่องนี้ก่อน


ส่วนตัวผมชอบ CB มาก จ่ายแต่ละครั้งสะใจดี สมัยทำ article marketing นั่งร้องโอ้โหทุกวัน
แต่ถ้าใช้วิธีเสียเงินแบบที่คุณ jayjay เล่ามา ระยะนี้คงไม่ไหว ถ้าเมื่อสิบปีก่อนคงพอได้
มันมีความเสี่ยงควบคู่มากับการซื้อ ads ต้องใช้ทุนหว่านทดสอบจำนวนมากๆกว่าจะเจอสัก key หนึ่งที่ได้ตังค์
หว่านไปแล้วอาจไม่เจอก็ได้ ถ้าหากอาจารย์เจอวิธีที่ไม่ต้องใช้เงิน ก็คงจะดีมาก อยากกลับไปอีกครั้ง
#92
Quote from: supersonics on Jan 25, 2025, 02:10 PMยุคปัจจุบันนี้ คนไทยที่ทำ clickbank จนได้เดือนละหลายแสนยังมีอยู่ แต่ต้องใช้เงินมาสู้กัน
จะมามือเปล่าแบบยุคโน้นไม่น่าจะมีแล้ว ผมเห็นคนไทยที่ซื้อ ads เก่งๆยังโพสท์ยอดขาย clickbank กันอยู่



ยอดขายสูงๆนั้น เป็นยอดที่ยังไม่ได้หักค่าโฆษณาครับ
เมื่อหักค่าโฆษณาแล้ว กำไรจริงๆอาจจะแค่ 10-20%
ผมเคยขาย shopify ผ่าน facebook บางวันยอดขายเป็น $100 หักโฆษณาแล้วติดลบ
ยอดขาย clickbank เป็นหมื่นเหรียญที่เอามาอวดกัน เรายังไม่รู้ครับว่าเขาซื้อโฆษณาไปเท่าไหร่
#93
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับวิธีซื้อโฆษณา
ผมก็เคยผ่านสังเวียนการซื้อโฆษณามาบ้าง มันมีโอกาสทั้งกำไรและขาดทุน
คนที่ทำกำไรในวันนี้ บางทีเขาก็ขาดทุนหลายแสนกว่าจะเจอสินค้าและ keywords ที่ทำเงินให้เขาได้
แต่เขามีสายป่านยาวพอที่จะทดสอบไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอขุมทอง
คนสายป่านสั้น หมดไปสี่ห้าหมื่นก็ถอดใจไม่สู้แล้ว
วิธีซื้อโฆษณาเหมาะกับคนบางคน แต่ไม่ใช่ทุกคน ถ้าไม่พร้อมจะเสียเงินสักห้าหกหมื่น อย่าลองดีกว่า
บางทีเสียห้าหมื่นแล้วก็ยังไม่ได้อะไร แต่บางคนเขาถนัดแบบนี้จริงๆครับ ทางใครทางมัน
ผมก็เข้าไปคลุกกับการซื้อโฆษณามาแล้ว ตอนนี้รามือออกมา ปล่อยคนที่เขาถนัดดีกว่า
#94
Quote from: Doody on Jan 25, 2025, 01:57 PMย้อนยุคไปหา kdp กันอีกครั้ง จะย้อนกลับไปหา clickbank ด้วยหรือเปล่าครับ

clickbank ในยุคที่ผมเคยทำสำเร็จนั้น ถือว่าจับเสือมือเปล่าครับ ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย
ยุคปัจจุบันนี้ คนไทยที่ทำ clickbank จนได้เดือนละหลายแสนยังมีอยู่ แต่ต้องใช้เงินมาสู้กัน
จะมามือเปล่าแบบยุคโน้นไม่น่าจะมีแล้ว ผมเห็นคนไทยที่ซื้อ ads เก่งๆยังโพสท์ยอดขาย clickbank กันอยู่
เห็นเปิดคอร์สสอนด้วย ผมเชื่อว่าเขาทำได้จริง แต่ผมไม่ถนัดทางการซื้อโฆษณา
เคยรุ่งสมัยค่าคลิกถูกๆ หลังจากคลิกแพงแล้วก็ไม่ค่อยได้ทำ ทำแล้วก็ไม่ค่อยรุ่ง
ถ้าจะย้อนกลับไป clickbank ก้ต้องด้วยวิธีที่ไม่ต้องใช้เงิน
ส่วน kdp ยังพอไปได้โดยไม่ต้องใช้ทุน เลยจะว่ากันเรื่องนี้ก่อน
หากเจอวิธีทำ clickbank แบบออกแรง แต่ไม่ต้องออกเงิน ค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้เอาเรื่องนี้ก่อน
#95
ย้อนยุคไปหา kdp กันอีกครั้ง จะย้อนกลับไปหา clickbank ด้วยหรือเปล่าครับ
#96
อ๋อ ครับ
#97
Quote from: Doody on Jan 25, 2025, 12:48 PMเรื่องนี้ไม่อยู่ในห้องลับหรือครับ


KDP มันเป็นเรื่องเก่า ประเด็นเก่า
บางอย่างก็อยู่ในหลักสูตรอื่นที่เคยสอนไปแล้ว จะเอามาทบทวนใหม่ อัพเดทใหม่
วิธีใช้ AI เขียนหนังสือ ก็เคยแสดงขั้นตอนไปแล้วเมื่อสองปีก่อน แต่บางคนลืมไปแล้ว
ในกระทู้นี้ แทนที่จะเขียนแค่บทความ เราก็จะให้มันเขียนหนังสือเป็นเล่ม แค่นั้นเอง

ส่วนห้องลับ จะเป็นประเด็นใหม่ๆที่ไม่เคยอธิบายมาก่อน
#98
เรื่องนี้ไม่อยู่ในห้องลับหรือครับ
#99
KDP 2025

พวกเราเริ่มต้นกับ KDP เมื่อ 14 ปีที่แล้ว
ตั้งแต่สมัย Public Domain และ Gutenberg

สมัยนั้นเงินทองมากันอย่างง่ายดาย
วันนั้นการทำเงิน $1000 เป็นเรื่องธรรมดามาก คนทำได้ $5000 ต่อเดือนก็มีไม่น้อย
น่าเสียดายที่มันอยู่ไม่นาน แค่ปีเดียวแนวทางนี้ก็ถูกสกัดจาก amazon
เนื่องจากคนที่มาใหม่ใช้วิธี spam กันอย่างไม่ยั้งมือ โดยไม่ต้องคำนึงถึงคุณภาพ

นัก spam ไม่ได้มาจากกลุ่มของเรา
แต่มาจากกลุ่มอื่นที่คัดลอกข้อมูลของเราไปเผยแพร่และนำไปใช้อย่างผิดวิธี
เหมือนน้ำเสียส่วนหนึ่งที่ถุกสาดเข้ามา ทำให้น้ำดีที่มีอยู่พลอยกลายเป็นน้ำเสียไปด้วย
ทำให้พวกเราเสียหายโดนปิดแอคเคาท์ไปด้วย

สิบปีผ่านไป เจ้าของแอคเคาท์ที่เคยโดนปิด เขาให้โอกาสกลับมาเปิดใหม่ได้อีก
คราวนี้การทำมาหากินกับ KDP ไม่ใช่แนวทาง Public Domain ที่เคยทำมา
แต่เป็นหนังสือทำง่าย เช่น Low Content Books ที่มีแต่ปกสวยๆกับเส้น
และ Medium Content Books ที่มีภาพประกอบเยอะแต่ตัวหนังสือน้อยๆ เช่น
Coloring Books, Activity Books, Puzzle Books

เรื่องความขยัน คนไทยเราไม่เป็นรองใคร
คนไทยหลายคนขยันส่ง Low Content Books และ Medium Content Books
จนทำรายได้หลายร้อยเหรียญต่อเดือน ผมเห็นบางคนโพสท์ใน FB ว่ามีรายได้จาก
หนังสือง่ายๆพวกนี้เดือนละ 600-700 ดอลลาร์ต่อเดือน ถือว่าเป็นรายได้เสริมที่ไม่เลวเลย
สำหรับคนไทย บางคนเป็นนักเรียนนักศึกษาอยู่ รายได้ระดับนี้ช่วยเหลือได้มาก

ยุคของ Low Content-Medium Content อาศัยลูกอึด ความขยัน
คัดสรรภาพสวยๆ และเลือกเฟ้น keywords ที่การแข่งขันไม่สูงมาก ก็ยังพอเอาตัวรอดได้

แต่เมื่อสองปีที่แล้ว เกิด Disruption ในวงการ Low Content/Medium Content
นั่นคือการมาของ AI ที่ทำให้ต้นทุนการผลิตหนังสือแนวนี้ถูกลง และเร็วขึ้น หลายสิบเท่า
coloring book ที่เคยใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าจะเสร็จสักเล่ม ทำได้ในสองชั่วโมง
ด้วยความมหัศจรรย์ของ AI generator เช่น MidJourney, Leonardo และตัวอื่นๆ

ช่วงสามสี่เดือนแรกที่ AI ปรากฎขึ้น ยังมีคนใช้งาน AI น้อย
คนที่ส่งงานซึ่งผลิตด้วย AI ทำเงินกันเป็นว่าเล่น
ภาพที่สวยสดงดงาม การผลิตที่รวดเร็ว ทำให้ใครที่มาก่อนก็รวยก่อน

แต่ปรากฎการณ์เช่นนั้นอยู่ได้ไม่นาน เพราะคนอื่นก็เรียนรู้เรื่องการใช้ AI ได้เช่นกัน
เมื่อผลงานที่ผลิตโดย AI ทะลักเข้าสู่แพลทฟอร์ม KDP วันละเป็นหมื่นเล่ม จน robot ตรวจไม่ทัน
สิ่งที่ตามมา คือ

Low Content โดนปฎิเสธทันที ตั้งแต่วินาทีแรกที่กด SUBMIT

Medium Content ยังไม่โดนปฎิเสธแบบอัตโนมัติ
แต่การตรวจสอบจะช้าเหมือนเต่าคลานกว่าจะผ่านได้
และจำนวนที่ผ่านได้ไม่ใช่ 100% แต่เหลือแค่ 30%
เขาเลือกผลงานที่แตกต่างและมีคุณภาพดีจริงๆ
ส่วนที่ทำมาแบบโหลๆ เลียนแบบคนอื่น เหมือนคนอื่น โดนปฎิเสธหมด
เพราะผลงานจาก AI มันไหลบ่าเข้ามาท่วมจน KDP รับไม่ไหวแล้ว

ถ้าถามว่าปี 2025 ยังทำ KDP ต่อไปได้หรือไม่?
คำตอบคือได้ แต่มีข้อแม้บางประการ

Low Content ควรจะหยุดทำ หนังสือที่มีแต่ปกสวยกับเส้นมันทำง่ายเกินไป ยิ่งมี AI ช่วยมันยิ่งง่ายสุดๆ
เมื่อมันง่ายเกินไป ใครๆก็ทำ ใครๆก็ขาย ปัญหาคือมีคนขายมากกว่าคนซื้อ
เราจะดันทุรังต่อไปกับการทำ Low Content ในปีนี้ รอดยากมาก

Medium Content ยังทำได้ แม้การสอบผ่านจะยากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าเราศึกษาวิธีทำให้หนังสือของเรามีความแตกต่าง และเลือกแนวทางที่คู่แข่งยังมีน้อย เช่น แทนที่จะมุ่งเน้นไปแต่ Coloring Books ซึ่งมี
คนส่งเข้ามามากมายในแต่ละวัน ลองไปทาง Word Search หรือแนวอื่นซึ่งทำยากกว่า แต่มีคู่แข่งน้อยกว่า เราน่าจะมีโอกาสขายสูงขึ้น
และถ้ายังรักจะทำ Coloring Books ต่อไปจริงๆ ควรศึกษาหาวิธีสร้างจุดเด่น สร้างความแตกต่างให้หนังสือเรา อย่าให้มันดูโหลเกินไป โอกาสยังพอมีอยู่

High Content Books อันนี้แหละคือตัวเงินตัวทองตัวจริงใน KDP หนังสือที่มีตัวหนังสือเยอะๆ ภาพน้อยๆ จะตั้งราคาได้สูงที่สุด คู่แข่งน้อยกว่าสองแนวแรก และคนที่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำจาก KDP จะเน้นแต่หนังสือแบบนี้ หาใช่สองแบบแรกไม่

คนไทยเราเคยเสียเปรียบฝรั่งมากมายตรงเขียนหนังสือภาษาอังกฤษไม่เป็น แต่วันนี้เมื่อ AI มันช่วยให้เราสู้ฝรั่งได้ทุกรูปแบบ เราจะไปกลัวการเขียนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษทำไม ก็ใช้ AI ให้มันเขียนแทนซิ
แม้จะใช้ AI เขียนแทน คนไทยส่วนมากก็ยังรู้สึกกล้าๆกลัวๆอยู่ดี

วันนี้เราจงขจัดความกลัวทิ้งไป มาลองใช้ AI แต่งหนังสือแทนเรา แล้วจะรู้ว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิด มีคนต่างชาติหลายประเทศที่ทำอยู่ เช่น คนเวียดนาม ซึ่งภาษาประกิตไม่ได้ดีกว่าเราเลย แต่คนเวียดนามบางคนทำเงินเป็นหลักแสนกันแล้ว เพราะใช้ AI อย่างถูกวิธี

สำหรับพวกเราที่เคยผ่านด่าน Public Domain จนร่ำรวยกันมาแล้วเมื่อสิบปีก่อน การใช้ AI เขียนแทนมันก็ไม่ได้ต่างกับการใช้ Public Domain เท่าใดนัก เราขายหนังสือภาษาอังกฤษที่เราไม่ได้แต่งเองเช่นกัน วิธีโน้นเจ้าของลิขสิทธิ์เขาตายไปแล้วเป็นร้อยปี แต่วิธีนี้เราใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วย มันออกมาเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เราเอาไปขายต่อได้ และมันทำให้คนหลายคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤารวยมาแล้ว เราจะรวยอย่างเขาบ้างไม่ได้เชียวหรือ

ข้อดีของ High Content อีกอย่างหนึ่ง คือเราสามารถแปลง Text เป็นเสียง แล้วนำไปเสนอขายเป็น audio books บนแพลทฟอร์มอื่นได้อีก เรียกว่ากระสุนนัดเดียวได้นกหลายตัว เพิ่มโอกาสในการทำเงินให้เราอีกมากมาย

ข้อสรุปต่อคำถามที่ว่า "KDP ในปี 2025 ยังน่าทำหรือไม่"
คำตอบคือ ยังน่าทำ ถ้าเรารู้จักปรับตัว แสวงหาโอกาสใหม่ๆ ลองทำอะไรที่ยากกว่าเดิม
แต่จะไม่น่าทำ ถ้ายังจมปลักอยู่กับของง่ายๆเช่น Low Content

#100
Quote from: jayjay on Jan 25, 2025, 07:19 AM
Quote from: พัฒน์ on Jan 25, 2025, 06:52 AMถ้ามิจฉาชีพปลอมเป็นสาวงามแบบนี้หลอกเงินหนุ่มๆ ผมว่าได้มีการตายหมู่


ผมว่าน่าจะมีคนโดนไปเยอะแล้วละครับ แต่ถ้าเงินไม่มาก บางคนก็อายไม่กล้าบอกใคร
เพื่อนผมเล่น facebook อยู่ดีๆมีสาวงามทักมา ขอเป็นเพื่อน เป็นเพื่อนกันสักพักก็ขอเป็นแฟน
ส่งรูปงามหยดย้อยมาทาง line ให้ดูทุกวัน เป็นแฟนกันสักพักก็ขอเงิน
บอกว่าแม่ป่วยบ้าง ไม่มีค่าหน่วยกิตบ้าง นัดขอเจอตัวจริงไม่ได้สักที บ่ายเบี่ยงไปเรื่อย
หมดไปหมื่นหนึ่งก็เริ่มเอะใจ มาปรึกษาผม ผมบอกว่า "มึงโดนต้มแล้วล่ะ ภาพที่ส่งมามัน ai ทั้งนั้น
มึงหกสิบกว่าแล้ว บำนาญก็แค่หมื่นกว่าบาท เด็กรุ่นนี้สวยขนาดนี้ใครจะมาสนใจมึง"



ผมก็เคยมีมาสามสี่คนครับ แต่ละคนสวยๆ ทั้งนั้น มักจะถ่ายภาพตามที่หรูๆ ดูดี มาขอเป็นเพื่อนที่ FB พอรับเป็นเพื่อนแล้ว เธอจะบอกว่าอยากรู้จักกันให้มากกว่านี้ แอดไลน์คุยกันได้มั๊ยคะ ใน FB มีแต่คนหื่น สามสี่คนนี่พูดเหมือนกันหมด เป็น  Template คือ "อยากรู้จักกันให้มากกว่านี้ แอดไลน์คุยกันได้มั๊ยคะ ใน FB มีแต่คนหื่น" ผมมักจะตอบเธอไปว่า "ได้ซิจ๊ะ แต่ต้องรอให้เมียลุงเผลอก่อนนะ อิอิ" หายไปทุกคนครับ ไม่กลับมาอีก